ดูจากบรรจุภัณฑ์
เราจะต้องคอยสังเกตให้ดีว่าตัวขวดน้ำมันเครื่องนั้นยังมีสภาพที่ดีอยู่ไหม เช่น บุบรึเปล่า หรือว่าดูเก่ามากจนเกินไป หรือมีการเปิดใช้งานมาแล้ว เพราะแน่นอนว่าเราไม่รู้เลยว่าถ้าเปิดใช้งานแล้ว เค้าเอาอะไรมาเติมลงไปแทนรึเปล่า แต่ต่อให้เป็นมันเครื่องแท้ แต่อยู่ในลักษณะขวดบี้ บุบ ดูเก่า ก็ไม่น่าใช้เหมือนกัน เพราะอาจจะเป็นน้ำมันเครื่องที่เสื่อมคุณภาพแล้วก็ได้
ฉลากติด
ให้เราดูก่อนเลยว่าบนขวดน้ำมันเครื่องที่จะนำมาเปลี่ยนถ่ายรถของเรานั้นมีฉลากที่ครบถ้วนรึเปล่า ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อ วัน เดือน ปี ที่ผลิต ละที่สำคัญแบบขาดไม่ได้นั่นก็คือเครื่องหมายรับรองมาตรฐาน เพราะจะช่วยให้เรามั่นใจได้ว่าน้ำมันเครื่องที่มาใช้กับรถยนต์ของเรานั้นใช้ได้แน่นอน จะไม่ส่งผลให้เครื่องยนต์ของเราเสีย
กลิ่นของน้ำมันเครื่อง
หลายๆ คนที่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องจนรู้ดีว่ากลิ่นน้ำมันเครื่องนั้นเป็นยังไง บางคนอาจจะเช็กได้จากการดมกลิ่นเลยก็ว่าได้ เพราะถ้าน้ำมันเครื่องของแท้นั้น กลิ่นจะแรงมากเพราะจะมีสารเคมีที่เยอะ แต่ถ้าเป็นน้ำมันเครื่องปลอมสารเคมีจะไม่ได้เยอะ เพราะฉะนั้นแล้วกลิ่นน้ำมันเครื่องของปลอมจะกลิ่นไม่แรง
ตัวแทนจำหน่าย
เรื่องนี้ก็สำคัญเหมือนกันนะ เพราะถ้าเป็นตัวแทนจำหน่ายเจ้าใหญ่ๆ เค้าคงไม่เอาชื่อเสียงของเค้าเข้ามาเสี่ยงในการขายน้ำมันเครื่องปลอมหรอก เพราะฉะนั้นแล้วถ้าตัวแทนจำหน่ายที่ไว้ใจได้นั้นก็สำคัญเหมือนกัน ให้เราลองเลือกร้านที่จะซื้อดีๆ หรือว่าอู่ที่เราจะนำรถยนต์ของเราเข้าไปเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องให้ดีนะ
เช็คน้ำมันเครื่องไปแล้ว ก็อย่าลืมเช็คประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 กันด้วยนะคะ ว่าประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 ของเรานั้นหมดหรือยัง หากใกล้หมด หรือหมดแล้วให้รีบไปต่อเลย ทั้งนี้ก็เพื่อให้ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 ยังมีผลคุ้มครองเราอยู่นะคะ สำหรับบทความหน้าจะเป็นเรื่องของ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ไหนดี หากท่านใดสนใจ ชวนติดตามกันด้วยน้าา